นักศึกษาและฟรีแลนซ์ทําบัตรเครดิต ได้ไหม อย่างไร

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่หลายคน โดยเฉพาะนักศึกษาและฟรีแลนซ์ อาจจะสงสัยกัน นั่นก็คือเรื่องของการทำบัตรเครดิต หลายคนอาจจะคิดว่าการทำบัตรเครดิตเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน แต่จริงๆ แล้วมันมีวิธีการอยู่ครับ บทความนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังแบบละเอียดเลยว่า นักศึกษาและฟรีแลนซ์สามารถทำบัตรเครดิตได้ไหม และถ้าทำได้ต้องทำอย่างไรบ้าง

ทำไมนักศึกษาและฟรีแลนซ์ถึงสนใจบัตรเครดิต และความสำคัญของการเข้าถึงแหล่งเงิน

ปัจจุบันรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของคนรุ่นใหม่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เราได้เห็นการเติบโตของอาชีพ “ฟรีแลนซ์” (Freelance) อย่างก้าวกระโดด รวมถึงการใช้ชีวิตของ “นักศึกษา” ที่มีความเป็นอิสระและต้องการความคล่องตัวทางการเงินมากขึ้น การใช้จ่ายและการบริหารจัดการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความสนใจ คือ “บัตรเครดิต” (Credit Card)

ทำไมบัตรเครดิตถึงมีความสำคัญสำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์? 

ผมขออธิบายในมุมมองต่างๆ ดังนี้ครับ 

สำหรับนักศึกษา ช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และค้นหาตัวเอง นักศึกษาต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอื่นๆ บางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็น บัตรเครดิตจึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น บัตรเครดิตช่วยให้นักศึกษาเข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะสั้นในกรณีฉุกเฉิน ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของออนไลน์ การจองตั๋วเดินทาง หรือการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ บัตรเครดิตบางประเภทยังมีโปรแกรมสะสมแต้มหรือส่วนลดต่างๆ ที่ช่วยให้นักศึกษาประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

สำหรับฟรีแลนซ์ คือกลุ่มคนที่ทำงานอิสระ รับงานเป็นครั้งคราว หรือทำงานให้กับหลายๆ บริษัทในเวลาเดียวกัน ลักษณะงานแบบนี้ทำให้รายได้ไม่แน่นอน บางเดือนอาจมีรายได้สูง บางเดือนอาจไม่มีรายได้เลย การบริหารจัดการกระแสเงินสดจึงเป็นเรื่องท้าทาย บัตรเครดิตจึงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ฟรีแลนซ์บริหารจัดการการเงินได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น บัตรเครดิตช่วยให้ฟรีแลนซ์สามารถใช้จ่ายในยามที่รายได้ยังไม่เข้ามา ช่วยสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าอุปกรณ์ทำงาน ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บัตรเครดิตยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับงานและการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การรับเงินจากลูกค้าต่างประเทศ การซื้อซอฟต์แวร์ หรือการสมัครสมาชิกบริการออนไลน์ต่างๆ

ความยากในการสมัครบัตรเครดิต ถึงแม้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์มากมาย แต่การสมัครบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์กลับไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่มักจะพิจารณาจาก “รายได้ประจำที่แน่นอน” และ “ประวัติเครดิต” ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจเป็นสิ่งที่นักศึกษาและฟรีแลนซ์ยังขาดอยู่ นักศึกษาส่วนใหญ่มักจะยังไม่มีรายได้ประจำ และยังไม่มีประวัติเครดิต ทำให้ธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินคืน ในขณะที่ฟรีแลนซ์ถึงแม้จะมีรายได้ แต่ก็ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ยากต่อการแสดงให้ธนาคารเห็นถึงความมั่นคงทางการเงิน

บทความนี้จะช่วยอะไร

บทความนี้ ผมตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อเป็นคู่มือสำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์ที่สนใจทำบัตรเครดิต ผมจะอธิบายถึงวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องรายได้และประวัติเครดิต ผมจะพูดถึงวิธีการวางแผนการเงิน การเลือกประเภทบัตรเครดิตที่เหมาะสม รวมถึงทางเลือกอื่นๆ เช่น บัตรเครดิตแบบใช้เงินค้ำประกัน และบัตรเครดิตเสริม เพื่อให้นักศึกษาและฟรีแลนซ์สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและใช้ประโยชน์จากบัตรเครดิตได้อย่างเต็มที่

ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้นักศึกษาและฟรีแลนซ์เข้าใจเรื่องบัตรเครดิตมากขึ้น และสามารถตัดสินใจเลือกใช้บัตรเครดิตได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของตัวเองครับ

ความยากของนักศึกษาและฟรีแลนซ์ในการสมัครบัตรเครดิต

ก่อนอื่น ผมขอพูดถึงอุปสรรคที่นักศึกษาและฟรีแลนซ์ต้องเจอเมื่อต้องการสมัครบัตรเครดิตก่อนนะครับ ปัญหาหลักๆ เลยก็คือเรื่องของ "รายได้ที่ไม่แน่นอน" ธนาคารหรือสถาบันการเงินส่วนใหญ่มักจะพิจารณาจากรายได้ประจำที่มั่นคงและมีหลักฐานชัดเจน เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้สมัคร ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาสำหรับนักศึกษาที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีรายได้ประจำ และฟรีแลนซ์ที่รายได้ขึ้นอยู่กับงานที่ได้รับในแต่ละช่วง ทำให้ธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินคืน

สำหรับนักศึกษา บางคนอาจจะมีเงินที่ได้รับจากผู้ปกครองเป็นรายเดือน แต่เงินส่วนนี้มักจะไม่ถูกนับเป็นรายได้ประจำ เพราะไม่ได้มาจากการทำงานโดยตรง ส่วนฟรีแลนซ์ ถึงแม้จะมีรายได้ แต่ก็อาจจะไม่สม่ำเสมอ บางเดือนอาจจะได้เงินเยอะ บางเดือนอาจจะไม่มีเลย ทำให้ยากต่อการแสดงให้ธนาคารเห็นถึงความมั่นคงทางการเงิน นอกจากเรื่องรายได้แล้ว ประวัติเครดิตก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญครับ สำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตทางการเงิน ส่วนใหญ่มักจะยังไม่มีประวัติเครดิต ทำให้ธนาคารไม่สามารถประเมินพฤติกรรมการใช้จ่ายและการชำระหนี้ในอดีตได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตได้เช่นกัน

วิธีการสำหรับฟรีแลนซ์ในการสมัครบัตรเครดิต

สำหรับฟรีแลนซ์ที่ต้องการมีบัตรเครดิต ผมมีวิธีแนะนำอยู่ครับ นั่นก็คือการ "วางแผนการเดินบัญชีให้สม่ำเสมอ" เนื่องจากรายได้ของฟรีแลนซ์ไม่แน่นอน การแสดงให้ธนาคารเห็นว่าเรามีกระแสเงินสดที่ไหลเข้าบัญชีอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ผมแนะนำให้ฟรีแลนซ์เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และพยายามนำเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือน หรือทุกครั้งที่ได้รับเงินค่าจ้าง ควรโอนเงินเข้าบัญชีในจำนวนที่ใกล้เคียงกันและในเวลาที่ใกล้เคียงกันทุกครั้ง การทำแบบนี้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธนาคารได้ครับ เมื่อถึงเวลาสมัครบัตรเครดิต ให้นำ Statement ของบัญชีเงินฝากนั้นไปยื่นประกอบการสมัคร เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นว่าเรามีรายได้ที่สม่ำเสมอ แม้ว่ารายได้นั้นจะไม่ใช่เงินเดือนประจำก็ตาม การทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตมากขึ้นครับ

บัตรเครดิตแบบใช้เงินค้ำประกัน ทางเลือกสำหรับทุกคน

อีกทางเลือกหนึ่งที่ผมอยากแนะนำ ซึ่งเหมาะทั้งนักศึกษาและฟรีแลนซ์ ก็คือ "บัตรเครดิตแบบใช้เงินค้ำประกัน" บัตรเครดิตประเภทนี้เป็นการนำเงินของเราไปฝากไว้กับธนาคารเพื่อเป็นหลักประกันในการใช้บัตรเครดิต วิธีการก็คือ เราจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคาร และฝากเงินจำนวนหนึ่งไว้ในบัญชีนั้น เงินจำนวนนี้จะถูกใช้เป็นหลักประกันในการใช้วงเงินของบัตรเครดิต โดยเราจะไม่สามารถถอนเงินจำนวนนี้ออกมาใช้ได้ จนกว่าเราจะยกเลิกบัตรเครดิต

ข้อดีของบัตรเครดิตแบบใช้เงินค้ำประกันคือ ช่วยให้คนที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือยังไม่มีประวัติเครดิต สามารถเข้าถึงบัตรเครดิตและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ เช่น การสะสมแต้ม การรับส่วนลด หรือการผ่อนชำระสินค้า

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียก็คือ เราต้องมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อนำไปฝากค้ำประกัน ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน แต่ถ้ามองในระยะยาว การมีบัตรเครดิตจะช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคตได้ครับ

บัตรเครดิตเสริม ทางออกสำหรับนักศึกษา

สำหรับนักศึกษา ผมขอแนะนำอีกทางเลือกหนึ่ง นั่นก็คือ "บัตรเครดิตเสริม" หากผู้ปกครองของนักศึกษามีบัตรเครดิตอยู่แล้ว นักศึกษาสามารถขอสมัครบัตรเสริมจากบัตรหลักของผู้ปกครองได้ การสมัครบัตรเครดิตเสริมจะใช้เครดิตทางการเงินของผู้ปกครองในการพิจารณา ทำให้ง่ายกว่าการสมัครบัตรเครดิตด้วยตัวเองสำหรับนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้หรือประวัติเครดิต อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตเสริมบางประเภทจะใช้วงเงินเดียวกันกับบัตรหลัก ดังนั้น นักศึกษาและผู้ปกครองควรมีการพูดคุยและวางแผนการใช้จ่ายร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการใช้วงเงินเกิน หรือกระทบกับการใช้จ่ายของแต่ละคน

การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตัวเอง

หลังจากที่ผมได้อธิบายวิธีการต่างๆ ในการทำบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์ไปแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตัวเอง บัตรเครดิตมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อดี ข้อเสีย และเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป การเลือกบัตรเครดิตที่ไม่ตรงกับความต้องการ อาจทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด หรืออาจต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

ผมขอแนะนำให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก่อนตัดสินใจเลือกบัตรเครดิต:

• วัตถุประสงค์การใช้งาน: เราต้องการใช้บัตรเครดิตเพื่ออะไร? เช่น ใช้จ่ายทั่วไป สะสมแต้ม แลกรับส่วนลด หรือใช้ผ่อนชำระสินค้า หากเราต้องการใช้เพื่อสะสมแต้ม ควรเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรแกรมสะสมแต้มที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา เช่น บัตรที่สะสมแต้มจากการเดินทาง หรือการรับประทานอาหาร
• อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม: ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตแต่ละประเภทอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด และค่าธรรมเนียมอื่นๆ หากเราไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมรายปี ควรเลือกบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
• สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น: บัตรเครดิตแต่ละประเภทมักจะมีสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน เช่น ส่วนลดร้านอาหาร ส่วนลดการเดินทาง ประกันภัย หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ควรเลือกบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของเรา
• วงเงินเครดิต: วงเงินเครดิตคือจำนวนเงินที่เราสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ควรเลือกวงเงินเครดิตที่เหมาะสมกับรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของเรา ไม่ควรเลือกวงเงินที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้เราใช้จ่ายเกินตัวและมีปัญหาในการชำระหนี้ในภายหลัง

การเปรียบเทียบข้อมูลบัตรเครดิตจากแหล่งต่างๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกบัตรที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันมีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมากมายที่ให้บริการเปรียบเทียบบัตรเครดิต เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการเปรียบเทียบข้อเสนอต่างๆ

การมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการเงินเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์ที่ต้องบริหารจัดการการเงินด้วยตัวเอง การศึกษาหาข้อมูลและใช้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน จะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้นในอนาคต

ผมขอสรุปอีกครั้งนะครับ ว่านักศึกษาและฟรีแลนซ์สามารถทำบัตรเครดิตได้ แม้ว่าจะไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้

• สำหรับฟรีแลนซ์: วางแผนการเดินบัญชีให้สม่ำเสมอ เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นถึงกระแสเงินสดที่ต่อเนื่อง
• สำหรับทั้งนักศึกษาและฟรีแลนซ์: สมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินค้ำประกัน เพื่อสร้างประวัติเครดิตและเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ
• สำหรับนักศึกษา: ขอสมัครบัตรเครดิตเสริมจากผู้ปกครอง

นอกจากวิธีการเหล่านี้แล้ว ผมยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ ก่อนที่จะตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อเสนอของบัตรเครดิตแต่ละประเภทอย่างละเอียด เช่น อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม สิทธิประโยชน์ต่างๆ และเงื่อนไขการใช้งาน เพื่อเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การมีวินัยในการใช้จ่ายและชำระหนี้ ควรใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง และชำระเงินคืนเต็มจำนวนและตรงเวลาทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยและค่าปรับต่างๆ และเพื่อสร้างประวัติเครดิตที่ดีในระยะยาว

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาและฟรีแลนซ์ที่กำลังสนใจทำบัตรเครดิตนะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ได้โดยตรงครับ