สินเชื่อส่วนบุคคล คืออะไร

สินเชื่อส่วนบุคคล คือ สินเชื่อที่สถาบันการเงินให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลเพื่อนำไปใช้จ่ายตามความต้องการและความจำเป็นต่างๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อส่วนบุคคลมีจุดเด่นคือ วงเงินอนุมัติสูง อนุมัติง่าย และสามารถผ่อนชำระได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ชำระหนี้บัตรเครดิต ชำระค่ารักษาพยาบาล ท่องเที่ยว หรือเพื่อการลงทุนต่างๆ

คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อส่วนบุคคล โดยทั่วไป ดังนี้

• มีสัญชาติไทย
• อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
• มีรายได้ประจำ
• มีประวัติทางการเงินที่ดี
• มีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการขอสินเชื่อส่วนบุคคล โดยทั่วไป ดังนี้

• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้
• เอกสารแสดงรายได้อื่นๆ (ถ้ามี)
• เอกสารแสดงที่อยู่ (ถ้ามี)

การขอสินเชื่อส่วนบุคคล

โดยทั่วไปไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากอะไร สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงติดต่อสถาบันการเงินที่คุณต้องการขอสินเชื่อ แจ้งความต้องการขอสินเชื่อและยื่นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ สถาบันการเงินจะพิจารณาคุณสมบัติของคุณและอนุมัติสินเชื่อให้คุณภายในระยะเวลาที่กำหนด

การผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคล

เมื่อกู้ได้แล้ว ก็ต้องจ่ายคืน โดยชำระตามจำนวนเงินที่สถาบันการเงินกำหนด มักจ่ายคืนเป็นรายเดือน คุณสามารถชำระค่างวดสินเชื่อส่วนบุคคลได้ที่สาขาของสถาบันการเงิน หรือชำระผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น ตู้ ATM ธนาคาร อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือโมบายแบงก์กิ้ง

สินเชื่อส่วนบุคคล 10 อันดับยอดนิยมในประเทศไทย

ในประเทศไทยมีสินเชื่อส่วนบุคคลมากมายหลายประเภท แต่ละประเภทมีอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บทความนี้จะมาแนะนำสินเชื่อส่วนบุคคล 10 อันดับยอดนิยมในประเทศไทย

1. สินเชื่อส่วนบุคคล Speedy Loan (SCB) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 19.5% ต่อปี
2. สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนสบาย (KBank) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 19.9% ต่อปี
3. สินเชื่อส่วนบุคคล K-CASH (KBank) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 22.0% ต่อปี
4. สินเชื่อส่วนบุคคล เอ็กซ์ตร้า แคช (Krungsri) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 20.0% ต่อปี
5. สินเชื่อบุคคล เงินด่วน Xpress Loan (TMB) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 21.5% ต่อปี
6. สินเชื่อบุคคล แคชพลัส (KTC) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 22.0% ต่อปี
7. สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนสบาย (TISCO) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 21.0% ต่อปี
8. สินเชื่อบุคคล แคชพลัส (SCB) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 22.0% ต่อปี
9. สินเชื่อบุคคล ผ่อนสบาย (Bangkok Bank) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 21.0% ต่อปี
10. สินเชื่อบุคคล แคชพลัส (Krungthai Card) สินเชื่อนี้ให้วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 22.0% ต่อปี

ข้อควรระวังในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล

เรื่องนี้สำคัญ ก่อนขอสินเชื่อส่วนบุคคลควรพิจารณาให้รอบคอบถึงความจำเป็นในการขอสินเชื่อ ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการผ่อนชำระให้ละเอียด และต้องมั่นใจว่าคุณสามารถชำระค่างวดสินเชื่อได้ตรงเวลาทุกเดือน เพราะหากผิดนัดชำระค่างวด คุณอาจต้องเสียค่าปรับและดอกเบี้ยงวดย้อนหลัง ซึ่งอาจทำให้คุณเป็นหนี้สินก้อนโตเกินกว่าที่จะปิดหนี้ลงได้ สุดท้ายก็จะพบกับการดำเนินการทางกฎหมาย ถูกฟ้องร้อนเสียประวัติไปเลย

การสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล

การสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถทำได้ง่าย โดยผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัครออนไลน์หรือไปที่สาขาของธนาคารที่ต้องการ โดยจะต้องมีเอกสารที่แสดงรายได้และข้อมูลส่วนตัว เช่น สลิปเงินเดือนหรือเอกสารแสดงรายได้อื่นๆ สินเชื่อส่วนบุคคลจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดเพื่อใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน โดยไม่ต้องมีความยุ่งยากในการจัดหาเอกสารค้ำประกัน

สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถกู้ได้มากแค่ไหน

สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถกู้ได้สูงสุดประมาณ 10 เท่าของรายได้ประจำของผู้กู้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารและเงื่อนไขที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วธนาคารจะพิจารณาจากรายได้, ประวัติการชำระหนี้, และความสามารถในการชำระคืนของผู้กู้ นอกจากนี้ บางธนาคารอาจมีวงเงินกู้ที่แตกต่างกันไป เช่น บางแห่งอาจอนุมัติวงเงินสูงสุดถึง 1-2 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้และความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ดังนั้น หากคุณสนใจสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล ควรตรวจสอบรายละเอียดจากธนาคารที่คุณสนใจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถใช้เงินกู้ได้สำหรับอะไรบ้าง

สามารถนำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง:

1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ใช้ในการซื้อสินค้าหรือบริการที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือของใช้ในบ้าน

2. การศึกษา: สามารถใช้เพื่อชำระค่าเล่าเรียนหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

3. การรักษาพยาบาล: ใช้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ไม่คาดคิดหรือค่าใช้จ่ายในการรักษา

4. การท่องเที่ยว: ใช้ในการวางแผนท่องเที่ยว เช่น ตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง

5. การชำระหนี้: สามารถใช้ในการรวมสินเชื่อหรือชำระหนี้ที่มีอยู่ เพื่อให้การจัดการทางการเงินง่ายขึ้น

6. การลงทุน: บางคนอาจใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการลงทุนในธุรกิจหรือโครงการที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทน

7. การซ่อมแซมบ้าน: ใช้ในการปรับปรุงหรือซ่อมแซมบ้าน เช่น การตกแต่งภายในหรือการซ่อมแซมโครงสร้าง

สินเชื่อส่วนบุคคลมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทำให้เหมาะสำหรับการตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินที่หลากหลาย แต่ผู้กู้ควรคำนึงถึงข้อเสียที่จะเกิดขึ้นได้ด้วย อาทิเช่น สินเชื่อส่วนบุคคลมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง เนื่องจากไม่มีหลักประกัน ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากเมื่อถึงเวลาชำระคืน, ควรมั่นใจว่าการกู้เงินมีความจำเป็นจริง ๆ และเป็นการใช้จ่ายที่มีเหตุผล ไม่ใช่เพียงเพื่อซื้อของฟุ่มเฟือย เช่น โทรศัพท์ใหม่หรือรถยนต์, นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อ ซึ่งอาจเพิ่มภาระทางการเงิน, สินเชื่อส่วนบุคคลมักให้วงเงินสูงกว่าบัตรกดเงินสด ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้มีโอกาสใช้จ่ายเกินความจำเป็น ควรระมัดระวังในการใช้เงิน, ผู้กู้ควรมั่นใจว่าสามารถชำระคืนเงินกู้ได้ตามกำหนด หากไม่สามารถชำระได้ อาจต้องเผชิญกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและค่าปรับมหาศาล

การพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการขอสินเชื่อส่วนบุคคลจะช่วยให้ผู้กู้สามารถจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเป็นหนี้ที่ไม่จำเป็น