เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ บัตรเครดิตรีวอร์ดกับแคชแบ็ค

ในโลกของบัตรเครดิต มีบัตรอยู่สองชนิดที่ชิงความสนใจจากเรา ๆ อยู่เสมอ นั่นคือ บัตรเครดิตรีวอร์ด (Reward) และ บัตรเครดิตแคชแบ็ค (Cash Back) แต่ละบัตรมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ทำให้การตัดสินใจระหว่างทั้งสองเป็นการพิจารณาที่สำคัญสำหรับเราก่อนเลือกที่จะสมัคร บทความนี้จะเจาะลึกถึงความซับซ้อนของบัตรเครดิตรีวอร์ดกับแคชแบ็ค โดยจะให้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเลือกตัวเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจความแตกต่างของระบบการให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพิ่มความคุ้มค่ามากที่สุด

ก่อนที่จะไปสู่การเปรียบเทียบ สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่า บัตรเครดิตรีวอร์ด เป็นยังไง บริษัทบัตรเครดิตให้ของรางวัลหลายอย่างเป็นสิ่งจูงใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้ถือบัตรใช้จ่ายผ่านบัตรของตนมากขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์มากมายจะช่วยรักษาฐานผู้ใช้บัตรที่กว้างขึ้น

1. บัตรเครดิตรีวอร์ด

นี่เป็นรูปแบบของคะแนนหรือแต้มที่ผู้ถือบัตรสามารถสะสมและแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ส่วนลดการเดินทาง ส่วนลดสินค้า บัตรของขวัญ หรือแม้กระทั่งเงินคืน คะแนนมักจะได้รับตามโปรแกรมรางวัลเฉพาะของบัตรแต่ละใบ ซึ่งมักจะเชื่อมโยงกับหมวดการใช้จ่ายบางประเภท ตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตรีวอร์ดสำหรับการเดินทางโดยเฉพาะ อาจให้คะแนนพิเศษสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น เที่ยวบิน โรงแรม และรถเช่า นอกจากนี้ยังสามารถรับคะแนนจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยการนำเอาการซื้อทั้งหมดผ่านบัตรมาคำนวณเป็นคะแนน

2. บัตรเครดิตแคชแบ็ค

คือจะได้เงินคืน ตามชื่อที่บอกเลย เป็นการมอบเปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายคืนเป็นเงินเครดิตแก่ผู้ถือบัตร สิทธิประโยชน์ประเภทนี้มักจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เนื่องจากขั้นตอนการแลกรางวัลเกี่ยวข้องกับการรับเงินคืนโดยตรงในรูปแบบของเครดิตในใบแจ้งยอดหรือการฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตร การเงินคืนโดยทั่วไปจะคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายทั้งหมด และบัตรบางใบเสนออัตราเงินคืนตามลำดับชั้นตามประเภทการใช้จ่ายที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น บัตรอาจให้เงินคืน 1% สำหรับการรูดจ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านบัตร และ 2% สำหรับการรูดซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตและจ่ายค่าน้ำมัน เป็นต้น

Content Cover

ตอนนี้เรามีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ บัตรเครดิตรีวอร์ด และ บัตรเครดิตแคชแบ็ค กันแล้ว เรามาเจาะลึกข้อดีและข้อเสียของแต่ละข้อเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าบัตรไหนเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากกว่ากัน

ข้อดีและข้อเสียของบัตรเครดิตรีวอร์ด

  • ข้อดี:
    • ความคล่องตัวในการแลก: บัตรเครดิตสะสมแต้มมีตัวเลือกการแลกที่หลากหลาย ตั้งแต่การจองการเดินทางไปจนถึงบัตรของขวัญไปจนถึงสินค้าและส่วนลด ความอเนกประสงค์นี้ทำให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกรางวัลที่ตรงกับความชอบและไลฟ์สไตล์ของคุณ
    • มูลค่าที่สูงขึ้น: เมื่อใช้อย่างชาญฉลาด คะแนนบัตรเครดิตจะมีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับแคชแบ็ค ตัวอย่างเช่น การใช้คะแนนสำหรับการจองการเดินทางระดับพรีเมียมหรือโอนไปยังโปรแกรมสมาชิกของโปรโมชั่นจากร้านค้าพันธมิตรสามารถให้มูลค่าของแต้มสะสมที่พิเศษขึ้นได้
    • โบนัสสำหรับผู้ถือบัตรใหม่: บัตรเครดิตจำนวนมากดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยโบนัสการสมัครบัตรใหม่ โดยมอบคะแนนจำนวนมากกว่าเมื่อถึงเกณฑ์การใช้จ่ายภายในสองสามเดือนแรกหรือตามโปรโมชั่นต่าง ๆ
    • สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง: คะแนนสะสมที่ได้รับจากบัตรเครดิตประเภทสะสมไมล์การเดินทาง (อาจรวมเป็นบัตรเครดิตชนิดรีวอร์ดประเภทหนึ่งก็ได้) มักจะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษด้านการเดินทางเพิ่มเติม เช่น การเข้าใช้บริการ Lounge หรือห้องรับรองในสนามบิน ประกันการเดินทาง และการอัปเกรดสถานะพิเศษฟรี
  • จุดด้อย:
    • ขั้นตอนการแลกคะแนนที่ยุ่งยาก: แม้ว่าคะแนนสะสมจะมีตัวเลือกด้านสิทธิประโยชน์มากกว่า แต่ก็มักจะมาพร้อมกระบวนการแลกคะแนนที่ซับซ้อน โปรแกรมรางวัลบางรายการมีวันที่หยุดให้บริการ มีจำนวนจำกัด หรือมีข้อจำกัดในการใช้คะแนน
    • มูลค่าที่ผันผวน: มูลค่าของคะแนนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในโปรแกรมรางวัล ข้อตกลงของร้านค้าพันธมิตร หรือความต้องการเดินทางในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สิ่งนี้ทำให้ยากต่อการคาดเดามูลค่าที่แท้จริงของคะแนนสะสมของคุณ
    • ค่าธรรมเนียมรายปี: บัตรเครดิตรีวอร์ดประเภทพรีเมี่ยมสำหรับผู้ที่มีรายได้สูงจำนวนมากซึ่งมีโครงสร้างคะแนนที่มีคุณค่าสูง มักมีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงมาก แม้ว่าค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจสมเหตุสมผลสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายเป็นจำนวนมากหรือผู้เดินทางบ่อย แต่ผู้ใช้บัตรเป็นครั้งคราวอาจพบว่าเป็นการยากที่จะปรับค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมและใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียมรายปีที่ต้องจ่าย
    • สิ่งล่อใจให้ใช้จ่ายมากเกินไป: การต้องการหาคะแนนสะสมให้ได้มาก ๆ อาจดึงดูดผู้ใช้บางคนให้ใช้จ่ายมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังและมีวินัยทางการเงินที่มากพอ

ข้อดีและข้อเสียของบัตรเครดิตแคชแบ็ค

  • ข้อดี:
    • ความเรียบง่าย: ได้แคชแบ็คเงินคืนตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย คุณรู้แน่ชัดว่าคุณจะได้เงินคืนเท่าไรจากการรูดใช้จ่าย ทำให้การวางแผนการเงินของคุณง่ายขึ้น
    • มีมูลค่าทันที: แคชแบ็คเงินคืนให้มีมูลค่าโดยทันทีโดยการลดยอดคงเหลือในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตของคุณหรือฝากเข้าบัญชีธนาคารของคุณโดยตรง
    • ใช้ได้ตลอดเวลา: ไม่เหมือนกับระบบรีวอร์ดที่ใช้คะแนนบางส่วนกับโปรโมชั่นบางอย่าง แต่แคชแบ็คเงินคืนไม่ได้มาพร้อมกับวันที่ห้ามใช้หรือข้อจำกัดเกี่ยวกับเวลาหรือร้านค้าหรือโปรโมชั่น รวมถึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องวิธีที่คุณสามารถแลกด้วย
    • ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี: บัตรเครดิตคืนเงินจำนวนมากของหลายธนาคารในไทยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปี ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภคในวงกว้าง ทำให้เป็นบัตรเครดิตยอดนิยมมากกว่านั่นเอง
  • จุดด้อย:
    • มูลค่าโดยรวมอาจต่ำกว่า: โดยทั่วไปแคชแบ็คเงินคืนจะมีมูลค่าการแลกรับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคะแนนสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตประเภทคะแนนการเดินทางหรือพวกสะสมไมล์
    • ตัวเลือกการแลกรับที่จำกัด: แม้ว่าแคชแบ็คจะให้ความสะดวกสบายที่มีมูลค่ากลับมายังผู้ถือบัตรทันทีที่รูดใช้จ่าย แต่ตัวเลือกของสิทธิประโยชน์ที่จะแลกกลับคืนมาได้มีจำกัดมากกว่าเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตรีวอร์ดสะสมคะแนน
    • ขาดสิทธิประโยชน์ในการเดินทาง: โดยปกติแล้วบัตรเครดิตแคชแบ็คคืนเงินจะไม่ให้สิทธิประโยชน์หรืออะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนลดการเดินทาง เช่น ประกันการเดินทาง หรือการเข้าใช้ บริการ Lounge ห้องรับรองในสนามบิน เป็นต้น
    • ต้นทุนค่าเสียโอกาส: การเลือกบัตรเครดิตแคชแบ็คหมายถึงการพลาดโอกาสในการแลกรับของสมนาคุณที่มีมูลค่าสูงกว่าผ่านคะแนนสะสมบัตรเครดิตที่เราทำได้จริง ซึ่งหาได้ทั่วไปเป็นปกติในบัตรเครดิตประเภทรีวอร์ดสะสมแต้ม

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกระหว่างบัตรเครดิตแคชแบ็คและรีวอร์ด

  • นิสัยการใช้จ่ายของคุณ: ประเมินรูปแบบการใช้จ่ายและไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณเดินทางบ่อยและสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง บัตรเครดิตรีวอร์ดประเภทสะสมไมล์ อาจมีประโยชน์มากกว่า ในทางกลับกัน หากคุณต้องการความเรียบง่ายและผลตอบแทนที่ตรงไปตรงมา บัตรเครดิตแคชแบ็คเงินคืน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
  • ตัวเลือกการแลก: พิจารณาประเภทของรางวัลที่คุณให้คุณค่ามากที่สุด หากคุณมีเป้าหมายที่จะได้ส่วนลดการเดินทางที่เฉพาะเจาะจง หรือชอบตัวเลือกการแลกคะแนนที่หลากหลาย บัตรเครดิตรีวอร์ดจะน่าสนใจกว่า หากคุณต้องการเงินคืนเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายของคุณ บัตรเครดิตแคชแบ็คอาจเหมาะสมกว่า
  • ความคุ้มค่าที่เป็นไปได้: ศึกษาสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบที่ความคุ้มค่าที่เป็นไปได้ของคะแนนสะสมหรือเปอร์เซ็นต์เงินคืนที่จะได้รับ โปรดจำไว้ว่ามูลค่าของคะแนนอาจแตกต่างกันไปตามตัวเลือกการแลกรับและโปรแกรมพันธมิตร
  • โบนัสการลงทะเบียนและค่าธรรมเนียมรายปี: คำนึงถึงโปรโมชั่นโบนัสสำหรับผู้ถือบัตรใหม่และค่าธรรมเนียมรายปีที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต พวกโปรโมชั่นเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตแต่ละใบได้อย่างมาก ในขณะที่ค่าธรรมเนียมรายปีอาจส่งผลต่อความคุ้มค่าโดยรวมของคุณ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม: โปรดจำไว้ว่าผลประโยชน์ของสิทธิประโยชน์สามารถถูกลบล้างได้อย่างรวดเร็วหากคุณมียอดค้างชำระในบัตรเครดิตและต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยสูง

สรุป

ในการเปรียบเทียบระหว่างบัตรเครดิตแบบรีวอร์ดและแคชแบ็คว่าอันไหนดีว่าอันไหน ไม่มีคำตอบเดียว ทางเลือกที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความชอบ พฤติกรรมการใช้จ่าย และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน หากคุณให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง และมูลค่าการแลกคะแนนที่สูงขึ้น บัตรเครดิตประเภทรีวอร์ดสะสมคะแนนอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ในทางกลับกัน หากคุณต้องการความเรียบง่าย มูลค่าเงินสดทันที และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี บัตรเครดิตแบบแคชแบ็คที่ได้เงินคืนทุกการใช้จ่ายอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

ท้ายที่สุดแล้ว กุญแจสำคัญในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตให้สูงสุดอยู่ที่การใช้งานอย่างรับผิดชอบ ไม่ว่าคุณจะเลือกบัตรแบบไหน พยายามชำระยอดคงเหลือเต็มจำนวนในแต่ละเดือนเสมอ และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้โดยไม่จำเป็น เมื่อทำเช่นนั้น คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากบัตรเครดิตของคุณและทำให้ได้ความคุ้มค่ากับสิทธิพิเศษทางการเงินที่พวกเขาเสนอให้โดยไม่ตกหลุมพรางของหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง

ความคิดเห็น